Home News AIS ออกให้ ลูกค้าหนี้บิลช็อคคุ้กกี้รัน 3 รายรวมเกือบ 1 ล้านบาท

AIS ออกให้ ลูกค้าหนี้บิลช็อคคุ้กกี้รัน 3 รายรวมเกือบ 1 ล้านบาท

325
0
SHARE

หลังจากเป็นข่าวครึกโครมในช่วงนี้สำหรับ ข่าว Cookie Run ดูดเงินลูกค้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเยาวชนนำ มือถือของผู้ปกครอง ไปเล่นเกม Cookie Run แล้วซื้อไอเท็ม เพชรในเกม จำนวนมาก โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ โดยเป็นการเรียกเก็บเงินผ่านทางเครือข่ายมือถือ เอไอเอส ล่าสุดทางเอไอเอส ได้ยกเว้นค่าบริการส่วนนี้ให้กับลูกค้าทั้งสามราย ที่มียอดบิลประมาณ สองแสนบาท, หนึ่งแสนหกหมื่นบาท และหกแสนบาทแล้ว ซึ่งรวม ๆ แล้วเรียกว่าเกือบล้านบาทเลยทีเดียว โดยมีเนื้อข่าวดังนี้

cookie-run-bill-shock2

เอไอเอสแจงลูกค้าเจอบิลค่าบริการกว่า 2 แสนบาท เป็นการใช้งานจริง พร้อมยกเว้นค่าบริการเพื่อเป็นการช่วยเหลือลูกค้ารู้เท่าไม่ถึงการณ์

เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. นายปรัธนา ลีลพนัง รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานตลาด บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือเอไอเอส ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ได้ชี้แจงกรณีมีข่าวว่าผู้ใช้บริการได้รับบิลเรียกเก็บค่าซื้อคอนเทนต์ผ่านโทรศัพท์มือถือกว่า 2 แสนบาท ว่า ปัจจุบันการใช้บริการเกี่ยวกับแอพพลิเคชั่น ทางอินเทอร์เน็ต อาทิ การสมัครใช้งาน หรือ การซื้อคอนเทนต์ ผ่านทาง กูเกิลเพลย์สโตร์ ซึ่งเป็นศูนย์รวม แอพพลิเคชั่น ของแอนดรอยด์ ที่ให้บริการโดยกูเกิ้ล ได้รับความนิยมสูงขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งที่ผ่านมาลูกค้าจำเป็นต้องสมัครหรือซื้อสินค้าและบริการผ่านทางบัตรเครดิตเท่านั้น

ดังนั้น เพื่อเป็นการอำนวยการสะดวกให้กับลูกค้าเอไอเอสจึงเป็นผู้รับชำระค่าสินค้าและบริการนี้ให้กับกูเกิลเพลย์สโตร์ โดยหักจากบิลค่าโทรศัพท์ของเอไอเอสได้ทั้งแบบเติมเงิน และ จ่ายรายเดือน ตั้งแต่เดือนเม.ย.2557 ที่ผ่านมา ซึ่งในทางปฏิบัติ ในการที่จะใช้บริการดังกล่าวได้นั้น ลูกค้าจะต้องมีการสมัครใช้งานและยืนยันความเป็นเจ้าของก่อน  จึงจะสามารถทำการหักค่าใช้จ่ายได้ รวมถึงในการซื้อคอนเทนต์ แต่ละครั้ง จะมีการแจ้งให้ยืนยันการซื้อ และจะมีการส่งยืนยันการซื้อดังกล่าวกลับไปที่อีเมลของลูกค้าเสมอเช่นกัน

อย่างไรก็ตามหลังจากการเปิดบริการดังกล่าวไป พบว่าลูกค้าบางท่านมีค่าบริการสูงผิดปกติตามที่เป็นข่าว ซึ่งบริษัทก็มิได้นิ่งนอนใจและมีความห่วงใยในกรณีดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง โดยได้ทำการปิดบริการสำหรับระบบจ่ายรายเดือนทันที ตั้งแต่เมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา และจะดูแลลูกค้าโดยยกเว้นค่าสินค้าและบริการดังกล่าวทั้งหมดให้แก่ลูกค้าทุกรายที่ใช้งานโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์

ทั้งนี้บริษัทฯจะมีการพัฒนาระบบแจ้งเตือนรวมถึงเพิ่มเติมการกำหนดยอดการใช้งานสูงสุดในการชำระค่าสินค้าและบริการได้ด้วยตนเอง (Credit Limit) เพื่อป้องกันการเกิดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต รวมถึงให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้บริการในโลกออนไลน์เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนต่อไป

เอไอเอสยกเลิกเรียกเก็บเงินหนี้คุ๊กกี้รันที่จ.เพชรบุรีวงเงิน1.63แสนบ.และที่แม่สอดอีกเกือบ6แสนบ.รวม7.59แสนบ.

cookie-run-bill-shock

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จ.เพชรบุรี กรณีที่ ด.ช.สุพัฒน์ พูลพิพิธ อายุ 8 ขวบ ใช้โทรศัพท์มือถือเล่นเกมส์คุ๊กกี้รัน จนถูกเรียกเก็บเงินจากผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ ประจำเดือน พ.ค. มีมูลค่าสูงถึง กว่า 163,405.55 บาท โดยระบุเป็นค่าบริการไลน์คอร์เปอร์เรชั่นในหมวดค่าสินค้าและบริการ (ซื้อแอพพลิเคชั่นเกมส์”คุกกี้รัน” )

มีรายงานว่า น.ส.สมถวิล เขียวสะอาด อายุ 35 ปี มารดา ของ ด.ช.สุพัฒน์ พูลพิพิธ หรือน้อง ป๋อ อายุ 8 ขวบ ได้โทรศัพท์ไปปรึกษากับบริษัท AIS ผู้ให้บริการ ต่างยืนยันว่าเป็นการเรียกเก็บเงินจริง มีหลักฐานชัดเจน โดยให้ชำระงวดแรก 48,000 บาท

อย่างไรก็ตามเมื่อเรื่องนี้เผยแพร่ออกไป ทางบริษัทAIS ได้ส่งเอสเอ็มเอส เข้ามาในเครื่องโทรศัพท์ของตน แจ้งว่าขอยกเลิกการเรียกเก็บเงินค่าบริการดังกล่าวแล้ว ทำให้ตนคลายความกังวลลง จากนี้ไปก็จะแนะนำบุตรหลานให้เข้าใจการใช้งานในตัวอุปกรณ์สื่อสารให้เกิดประโยชน์ มากกว่าการที่จะนำไปใช้เพียงเพื่อเล่นเกมเท่านั้น

เอไอเอสแม่สอดยกเลิกหนี้คุกกี้รันเกือบ6แสน

นางอัจฉรา ใจครัว ลูกจ้างร้านตั้งคิ้มเชียง ซึ่งเป็นร้านขายเครื่องดื่ม ถนนอินทรคีรี ตำบลแม่สอด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก และเป็นเหยื่ออีกรายหนึ่งที่ได้รับบิลจากค่ายโทรศัพท์มือถือเรียกเก็บเงินจำนวน 596,398.51 บาท ที่ส่งไปถึงบ้าน จนมีอาการแทบช็อกและนอนไม่หลับมาหลายคืน นับแต่ได้รับใบแจ้งชำระเงิน ล่าสุดนางอัจฉรา ได้ไปที่ศูนย์บริการลูกค้าบริษัทเอไอเอสแม่สอด เพื่อนัดเคลียร์ปัญหา

ทางบริษัทเห็นว่านางอัจฉรา เป็นฝ่ายรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จึงยกเลิกการชำระหนี้เงินจำนวนดังกล่าวให้ แต่ต้องชำระค่าโทรศัพท์เดิม จำนวน 614.46 บาท ทำให้นางอัจฉรา เกิดความสบายใจ และดีใจที่ได้รับความเป็นธรรมจากบริษัท เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะบุตรชาย อายุ 18 ปี ถือว่าเป็นเหยื่อเกมคุกกี้รัน

รายงานข่าวแจ้งว่า ทันทีที่ทางบริษัทได้ยกเลิกการชำระหนี้ จำนวนมาก ให้กับนางอัจฉราแล้ว ทำให้นางอัจฉรา ได้ยกเลิกการใช้โทรศัพท์มือถือทันที และฝากเตือนไปยังสังคมว่าใครที่มีบุตรหลาน ให้ระวัง โดยเฉพาะโทรศัพท์รายเดือน ซึ่งจากกรณีดังกล่าว ทำให้สังคมในอำเภอแม่สอด มีความตื่นตัวมาก หลังจากทราบข่าวค่าโทรศัพท์มหาโหด

 

ที่มา : Posttoday, BangkokBizNews