Home iPhone ผล Benchmark A11 Bionic เร็วแรงไม่ไว้หน้า Android Phone และ MacBook สมกับที่ใช้เวลาพัฒนาถึง 3 ปี

ผล Benchmark A11 Bionic เร็วแรงไม่ไว้หน้า Android Phone และ MacBook สมกับที่ใช้เวลาพัฒนาถึง 3 ปี

150
0
SHARE
A11 Bionic
A11 bionic chip

ผล Benchmark A11 Bionic โปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ล่าสุดของ Apple ที่แอปเปิลใช้เวลาพัฒนานานถึง 3 ปี ซีพียูตัวนี้มีทั้ง 6 คอร์ด้วยกัน แบ่งเป็น 2 คอร์ประสิทธิภาพสูง และ 4 คอร์ประสิทธิภาพรอง ออกมาเรียบร้อยแล้ว พบว่าเร็วแรงแซงหน้า Android Phone รุ่นท๊อปทุกรุ่นในตลาดตอนนี้

คะแนน Benchmark A11 Bionic เร็วที่สุดในท้องตลาด

การทดสอบประสิทธิภาพ Apple A11 Bionic ด้วย Geekbench ที่ออกมาหลังจาก เปิดตัว iPhone X และ iPhone 8 แล้วนั้น ออกมาได้คะแนน 4,204 สำหรับ single-core และ 10,165 multi-core ทำให้
iPhone X, iPhone 8 , iPhone 8 Plus สมาร์ทโฟนที่เร็วและแรงที่สุดที่มีอยู่ในท้องตลาดในขณะนี้ โดยเครื่องที่ทดสอบคือ iPhone 10,3 ที่ใช้ iOS 11.1 โดยแรงแซง iPad Pro 2017 ที่ใช้ชิพที่เพิ่งเริ่มใช้ในปีนี้ คือ A10X Fusion ที่ได้คะแนน 3,887 (single core) และ 9,210 (multi core) ส่วน iPhone 7 ที่ใช้ชิพ A10 Fusion นั้นได้คะแนน 3,327 และ 5,542 ตามลำดับ และถ้าเทียบกับ MacBook Pro 2017 รุ่นต่ำสุด ที่ใช้ซีพียู 2.3GHz dual-core Intel chip ผลทดสอบอยู่ที่ 4,321 และ 9,183 และถ้าสัญญาณนาฬิกาอยู่ที่ 3.1 GHz จะอยู่ที่ 4,227 และ 8,955 ตามลำดับ

Benchmark A11 Bionic

นั่นหมายความว่า A11 Bionic นั้นมีเปี่ยมประสิทธิภาพมาก แรงแซงหน้า Android Phone ที่เปิดตัวทุกตัวก่อนหน้า iPhone X และยังแซงหน้า iPad Pro 2017 และแรงไม่แพง MacBook Pro เลยทีเดียว ซึ่งเป็นโจทย์หนักให้กับทาง Qualcomm และ Samsung ที่เป็นผู้ผลิตชีพียูหลักของทางฝั่ง Android

เปรียบเทียบ benchmark A11 กับอื่นๆ

ผลคะแนนของสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์

A11 Bionic ใช้เวลาพัฒนาถึง 3 ปี

การได้มาซึ่งประสิทธิภาพที่ดีขนาดพอไปใช้กับ Macbook Pro ได้ขนาดนี้ แอปเปิลต้องใช้เวลาในการพัฒนาถึง 3 ปี จากการให้สัมภาษณ์ของ Phil Schiller และ Johny Srouji ผู้บริหารระดับสูงของแอปเปิล ให้ข้อมูลไว้ว่า เริ่มพัฒนาตั้งแต่หลังพัฒนา Apple A8 ที่ใช้ใน iPhone 6 เสร็จ จุดเปรียบแปลงใหญ่ของ ชิพ A11 Bionic นี้ก็คือเป็นโปรเซสเซอร์ ที่แอปเปิลออกแบบเองมากกว่าที่เคย จากเดิมจะใช้ GPU จากทาง Imagination Technology มาใส่รวมกับ CPU ที่แอปเปิลออกแบบ ก็หันมาพัฒนา GPU เองและยังออกแบบส่วนชองชิพ SIP (ประมวลผลภาพ), ชิพ Controller, video encoder เองอีกด้วย ทำให้ A11 ที่มีทั้งหมด 6 คอร์นี้ 2 คอร์หลักนั้น ทำงานได้เร็วกว่า 25% และ 4 คอร์รอง ทำงานได้เร็วกว่า 70% เทียบกับ A10 ที่ใช้ใน iPhone 7 ดูไปแล้ว ข่าวลือเกี่ยวกับ การนำ ชิพสถาปัตกรรม ARM ที่ใช้ในไอโฟน มาใส่ใน MacBook เริ่มเป็นเค้าความจริงมากขึ้น