แอปเปิลสามารถเปิดตัว iPhone 7 ได้อย่างสวยงาม แม้ปีนี้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงดีไซน์ ก็ตาม โดยมียอดขายช่วงเปิดตัว แซงหน้า iPhone 6s แต่ก็ยังไม่สามารถทำลายสถิติที่ iPhone 6 เคยทำไว้ได้
ทาง Consumer Intelligence Research Partners (CIRP) สำรวจพบว่า จำนวนไอโฟนในสหรัฐอเมริกา
ที่เป็นไอโฟนเครื่องใหม่นั้น กว่า 73% ในช่วง 30 วันนับหลังการเปิดตัว iPhone 7 ในเดือนกันยายนนั้น เป็น
iPhone 7 และ iPhone 7 Plus
ความสำเร็จของ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus นั้นอยู่ที่ประมาณ 73% ส่วน iPhone 6s และ iPhone 6s Plus จะอยู่ที่ 71% ส่วน iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ตอนช่วงเปิดตัวในปี 2014 นั้นเรียกความสนใจได้มากถึง 81% ซึ่ง ในปีนั้น เป็นปีแรกของไอโฟนหน้าจอใหญ่ และดีไซน์ใหม่ มีไอโฟนสองรุ่นเป็นครั้งแรก
ที่น่าสนใจก็คือ 1 ใน 3 ของผู้ซื้อไอโฟนรุ่นใหม่ จะเป็นรุ่น Plus หรือรุ่นหน้าจอ 5.5 นิ้ว ใกล้เคียงกับปี 2015 ซึ่ง เทียบกับปี 2014 นั้นรุ่น Plus จะมียอดซื้อเพียง 1 ใน 4 เท่านั้น ส่วนแบ่งที่หายไปนั้น น่าจะเป็นของไอโฟนรุ่นใหม่ที่เปิดตัวช่วงต้นปี iPhone SE นั่นเอง
ผู้ใช้แอนดรอยด์เดิม ย้ายมาเป็นผู้ใช้ไอโฟนอยู่ 17% เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ ช่วงของ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ที่จะยอดอยู่ที่ 12% แต่ก็ยังน้อยกว่า เมื่อเทียบกับช่วงเปิดตัว iPhone 6s และ iPhone 6s Plus ที่มียอดถึง 26% เลยทีเดียว และมีจำนวนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น มีมาจากระบบอื่นนอกจาก ระบบ iOS และ Android ผู้ใช้ BlackBerry และ Windows Phone เดิม, ผู้ซื้อสมาร์ทโฟนเครื่องแรก และผู้ซื้อมือถือเป็นครั้งแรก รวมกันแล้วอยู่ที่ 5% ของผู้ซื้อ iPhone ทั้งหมดเท่านั้น
ช่วงเปิดตัวนั้นถือว่าเป็นช่วงของ สาวกที่เหนียวแน่นกับไอโฟนนั่นเอง ที่เข้ามาจับจองไอโฟนรุ่นใหม่ เพื่อทดแทนไอโฟนรุ่นเก่าที่ใช้อยู่ มากกว่าที่จะเป็น ผู้ใช้ฝั่งแอนดรอยด์ข้ามระบบมาเป็นไอโฟน
